บทที่3 ระบบสารสนเทศ


หน่วยที่ 3 ระบบสารสนเทศ
บทที่ 3 ระบบสารสนเทศ
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
          เทคโนโลยีสารสนเทศ ( 
Information Technology : IT ) หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( Information and Communication : ICTs ) ก็คือเทคโนโลยีสองด้าหลัก ๆ  ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ผนวกเข้าด้วยกัน  เพื่อใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ



องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
           ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประกอบขึ้นจากเทตโนโลยี 2 สาขาหลัก คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
           1.  เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
           คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก  เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้  คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ ( 
Hardware ) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า ซอฟต์แวร์ ( Software )
          
ฮาร์ดแวร์  ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ
           อุปกรณ์
รัข้อมูล ( Input )  เช่น แผงแป้นอักขระ ( KeyBoard ), เมาส์, เครื่องตรวจกวาดภาพ           ( Scanner ) , จอภาพสัมผัส ( Touch Scareen ), ปากกาแสง ( Light Pen ), เครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก    ( Magnetic Strip Reader ), และเครื่องอ่านรหัสแท่ง ( Bar Code Reader )
          
อุปกรณ์ส่งข้อมูล ( Output )  เช่น  จอภาพ ( Monitor ), เครื่องพิมพ์ ( Printer ), และเทอร์มินัล
           หน่วยประมวลผลกลาง  จะทำงาน
ร่วมกับหน่ววความจำหลักในขณะคำนวณหรือประมวลผล  โดยปฏิบัติหน้าที่ตามคำสังโปรแกรมคอมพิวเตอร์  โดยการดึงข้อมูลและคำสั่งที่เก็บไว้ในหน่วยความจำหลักมาประมวลผล
           หน่วยความจำหลัก  มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์รับข้อมูลเพื่อใช้ในการคำนวณ  และผลลัพธ์ของการคำนวณก่อนที่จะส่งไปยังอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล  รวมทั้งเก็บคำสั่งขณะกำลัง
ประมวณผล
           หน่วยความจำสำรอง  ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมขณะยังไม่ได้ใช้งานเพื่อการใช้ในอนาคต
           ซอฟต์แวร์  เป็นองค์ประ
กอบี่สำคัญและจำเป็นมากในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์  ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งออกได้เป็น  2  ประเภท  คือ
           ซอฟต์แวร์ระบบ  มีหน้าที่ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์และเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งเป็น  3  ชนิด  คือ


โปรแกรมระบบปฏิบัติการ  ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
โปรแกรมอรรถประโยชน์  ใช้้ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอรืในขณะประมวลผลข้อมูลหรือในระหว่างที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
โปรแกรมแปลภาษา  ใช้ในการแปลความหมายของคำสั่งที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ
           ซอฟต์แวร์ประยุกต์  เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะด้านตามความต้องการ  ซึ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์นี้สามารถแบ่งเป็น  3  ชนิด  คือ
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่องานทั่วไป
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน
ซอฟต์แวร์ประยุกต์อื่น ๆ
           2.  เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
           เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม  ใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ/ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน  ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก  รวดเร็ว  ถูกต้อง  ครบถ้วน  แบะทันกาล  ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับ/ส่งอาจเป็นตัวเลข ( 
Number Data )  ตัวอักษร ( Text )  ภาพ ( Image )  และเสียง ( Voice )
          
นอกจากนี้  เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น  6  รูปแบบดังนี้ต่อไปนี้  คือ
เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล
เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล
เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล
เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร
เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
           ประการที่  1  เทคโนโลยีสารสนเทศ  ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
           ประการที่  2  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก  ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ  ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกา
ภิวัตน์
           ประการที่  3  เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน  มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น  หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง  และ
เชื่อใโยงกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย
           ประการที่  4  เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบ
สุนทรียสัมผัส  แบะสามารถตอบสนองความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
           ประการที่  5  เทคโนโลยีสารสน
เทศำให้เกิดสภาพการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
           ประการที่  6  เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้นอีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ  หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น



 


ประเภทของระบบสารสนเทศ
           ปัจจุบันจะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร  กับระบบสารสนเทศ  และ
เทคโนดลยีสารสนเทศชัดเจนมากขึ้น  และเนื่องจากการบริหารงานในองค์กรมีหลายระดับ  กิจกรรมขององค์กรแต่ละประเภทอาาจจะแตกต่างกัน  ดังนั้น  ระบบสารสนเทศของแต่ละองค์กรอาจแบ่งประเภทแตกต่างกันออกไป  ถ้าพิจารณาจำแนกระบบสารสนเทศตามการสนับสนุนระดับการทำงานในองค์กร  จะแบ่งระบบสารสนเทศได้เป็น  4  ประเภท  ดังนี้


ระบบสารสนเทศสำหรับระดับผู้ปฏิบัติงาน ( 
Operational-level systems )  ช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในส่วยปฏิบัติงานพื้นฐานและงานทำรายการต่าง ๆ องขององค์กร
ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ชำนาญการ ( 
Knowledge-level systems )  ระบบนี้สนับสนุนผู้ทำงานที่มีความรู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลวัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยให้มีการนำความรู้ใหม่มาใช้
ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร ( 
Management-level systems )  เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตรวจสอบ  การควบคุม  กราตัดสินใจ  และการบริหารงานของผู้บริหารระดับกลางขององค์กร
ระบบสารสนเทศระดับกลยุทธ์ ( 
Strategic-level systems )  
เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยการบริหารระดับสูง  ช่วยในการสนับสนุนการวางแผนระยะยาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น